จากวาทะคนดังที่ได้กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า ทั้งสามท่านเน้นว่าการจะประสบความสำเร็จได้นั้น เราต้องลงมือทำ เราไม่รู้ว่าหากลงมือไปแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เรารู้ว่าหากไม่ลงมือแล้ว เราย่อมไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน อย่ากลัวความผิดหวังที่ยังมาไม่ถึง เพราะจะยิ่งคอยบั่นทอนจิตใจทำให้เราไม่ได้ไปต่อ เรามาลองคิดถึงคนที่เป็นนักกีฬากัน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาเทนนิส กอล์ฟ ว่ายน้ำ หรือกีฬาประเภทอื่น ก็ไม่มีใครซ้อมแล้วเป็นแชมป์ได้ในครั้งแรกกันสักคน
ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องฝึกฝนอย่างหนักด้วยกันทั้งนั้น กว่าที่ใครสักคนจะขึ้นเป็นแชมป์โอลิมปิก เขาต้องถูกฝึกกันตั้งแต่เด็ก ดังนั้น ถ้าคุณอยากเป็นแชมป์ คุณต้องหมั่นฝึกฝน รักษาวินัยในตนเอง รู้จักข้อดี – ข้อด้อยของตัวเองยังไม่พอ คุณต้องรู้จักคู่แข่งขันด้วย เพื่อที่จะหาทางตั้งรับ – และรุก ได้ถูกทาง ในโลกแห่งความเป็นจริง คงไม่มีใครมาบอกคุณได้ตลอดเวลาว่า สิ่งที่ทำไปนั้นมันผิดหรือถูก แต่คุณก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงที่เงินหาซื้อไม่ได้นี่แหละ
นักกีฬาใช้การฝึกทักษะซ้ำๆ เพื่อชัยชนะฉันใด คุณเองก็ใช้หลักการทำซ้ำๆ เพื่อเป้าหมายได้เช่นกัน ถึงแม้จะมีคนมาพูดให้คุณเสียน้ำใจไปบ้าง ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป เอาเวลาไปใช้คิดต่อยอดงานให้ประสบความสำเร็จยังจะดีกว่า หรือจะลองเอาคำสบประมาทนั้น มาเป็นแรงผลักดันให้เห็นว่าเราก็ทำสำเร็จได้ก็ได้ มีคำกล่าวอีกคำหนึ่งที่น่าสนใจว่า ชัยชนะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สปิริตของนักกีฬาต่างหากที่สำคัญกว่า จะเห็นได้ว่า นักกีฬาที่ดีย่อมทำใจได้ว่าชนะได้ ก็ต้องแพ้ได้เช่นกัน
หากเรายอมรับในจุดนี้ได้ตั้งแต่ต้น เราก็จะไม่ผิดหวังมากจนเกินไป เราอาจจะแพ้ในวันนี้ แต่หากเราตั้งใจแก้ไขจุดบกพร่องของเราจริงๆ และหมั่นฝึกซ้อมให้มากขึ้น เราย่อมกลับมาชนะได้แน่นอน นอกจากนี้ ถึงเป็นผู้ที่ชนะก็อย่าได้ประมาท เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า “การเป็นแชมป์ไม่ยาก แต่การรักษาแชมป์นั้นยากกว่า” แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดคือคุณต้องเริ่มลงมือทำเสียก่อน
เพราะโอกาสมักหลงรัก “นักทำ” มากกว่า “นักวาดฝันไปเรื่อยเปื่อย”
ขอบคุณแหล่งที่มา:[url=https://www.wholesalesqr.com/]wholesale Square[/url]
